เรื่องของผึ้งกับแมลงวัน
เมื่อผึ้งและแมลงวันตกลงไปในขวดพร้อมกัน ในขณะที่ผึ้งพยายามหาทางออกโดยการบินวนไปวนมาอยู่แต่ก้นขวด มันเห็นโลกภายนอกอยู่แค่เอื้อมจึงพยายามออกแรงบินชนขวดอย่างแรง เพราะเชื่อว่าถ้าขวดแตกมันจะได้ออกไปจากก้นขวดนั้นเสียที แต่ไม่นานมันก็หมดแรงตายอยู่ในก้นขวด
ส่วนแมลงวันนั้นแตกต่างออกไป เพราะในขณะที่มันบินวนอยู่หลายรอบ ก็พบความจริงว่ารอบๆเนื้อขวดนั้นไม่ต่างจากกำแพงหนา ยิ่งออกแรงเท่าไรก็ยิ่งสูญเปล่าเท่านั้น มันจึงเลือกที่จะบินขึ้นข้างบน จนพบทางออกที่ปากขวด
เรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดว่า การค้นหาทิศทางการทำงานที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ อย่าทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับทางเลือกที่ผิด เพราะไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใดก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ
ผมเคยมีประสบการณ์ทำงานกับโปรแกรมเมอร์บางคน เขาใช้เวลาในการแก้ Bug นานมากๆแม้ว่าจะคิดไม่ออกแต่เขาก็ยังดื้อดึงทำมันแม้ว่าจะเสียเวลามากเพียงใดก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทำงานส่งลูกค้าได้ทันตามกำหนด ถ้าเขายอมเสียเวลาถามเพื่อนร่วมงาน ถามหัวหน้างานเขาอาจใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้
อีกตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ต่างกัน ในอดีตพนักงานบัญชีเมื่อตอนสิ้นปีก็ต้องปิดงบการเงิน เผอิญว่างบทดลองรายการเดบิทไม่เท่ากับเครดิต พนักงานคนนั้นใช้เวลาข้ามวันข้ามคืนในการหาข้อผิดพลาดว่าทำไมเดบิทไม่เท่าเครดิต ทำให้บริษัทต้องสูญเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก ถ้าเขาเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือโปรแกรมเมอร์สักนิดเดียว ให้โปรแกรมเมอร์ตรวจสอบให้โดยใช้คำสั่ง SQL ไม่เกิน 3 นาทีทุกสิ่งทุกอย่างก็เรียบร้อย
ต่อไปนี้คนโปรซอฟท์ต้องเป็นคนที่มีคุณภาพคับแก้วเพราะเราต้องการยกระดับและเปลี่ยนแปลงสังคมของคนโปรซอฟท์ใหม่ให้มีความสามารถในการแข่งขันที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในแต่ละวัน
บทความโดย : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook