หลังจากเขียนหนังสือ Straight From the Gut ซึ่งเป็นบันทึกจากประสบการณ์ตลอดชีวิตการทำงานของตัวเองออกมาเมื่อเดือนกันยายน 2001 มียอดพิมพ์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านเล่ม ล่าสุด Jack Welch ก็ออกหนังสือเล่มใหม่ในชื่อ “Winning” โดยมี Suzy Wetlaufer Welch ภรรยาคนที่ 3 บรรณาธิการนิตยสาร Harvard Business Review ช่วยเขียนร่วม ซึ่งเขาบอกว่าเป็นการต่อยอดความคิดจากเล่มแรกที่ “เป็นเพียงเรื่องราวของคนคนหนึ่ง” มาสู่เนื้อหาที่ “เป็นการตกผลึกความคิดของผู้บริหารหลังเกษียณ”
ชื่อเสียงการบริหารและนำพา GE ให้เจริญก้าวหน้าเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง จนตัวเขาเองได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดซีอีโอดีเด่นในรอบร้อยปีนั้น เป็นภาพที่คนทั่วไปรู้จักดีอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจไม่เคยทราบว่า เมื่อเขาจบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเคมีจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เมื่อปี ค.ศ. 1960 แล้วมาร่วมงานกับ GE ในตอนแรกนั้น อยู่ได้แค่ปีเดียวเขาก็ตัดสินใจลาออกเสียแล้ว เพราะระอากับระบบระเบียบขององค์กรใหญ่ที่งุ่มง่ามเงอะงะ แม้จะขึ้นเงินเดือนให้ 1,000 $ เขาก็ไม่สน
คนที่มีส่วนให้เวลช์เป็นสุดยอดนักบริหารได้ในในวันนี้ ย่อมหนีไม่พ้น Reuben Gutoff หัวหน้าของเวลช์ในตอนนั้น ที่เห็นแววในตัวเขา และเกลี้ยกล่อมจนยอมอยู่ต่อได้สำเร็จ โดยเวลช์ยื่นข้อเสนอขอปรับสภาพแวดล้อมการทำงานในองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้นคล้ายบริษัทขนาดเล็ก
อย่างที่รู้กันทั่วไปว่าเวลช์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานในปี 1972 เป็นรองประธานอาวุโสในปี 1977 เป็นรองประธานบริษัทในอีก 2 ปีถัดมา และกลายเป็นซีอีโออายุน้อยที่สุดในปี 1981 ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุย่าง 46 ปี ตลอดเวลาการเป็นผู้นำของ GE เวลช์ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารที่กวาดล้างพนักงานออกไปมากที่สุด จนได้ฉายา Neutron Jack จากตัวเลขจำนวนพนักงาน 411,000 คนช่วงปี 1980 ลดลงไปเกือบครึ่งในอีก 5 ปีถัดมา และยังคงลดอีกเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดการแบ่งเกรด A B C ซึ่งกลุ่มหลังนี้จะถูกย้ายออกไปเพื่อให้เกิดผลดีแก่บริษัทและตัวพนักงานเอง
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ GE คือการเปลี่ยนสภาพจากอุตสาหกรรมการผลิต มาเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าและบริการ ครอบครองตลาดค่อนโลก มีอัตราเติบโตของรายได้แบบก้าวกระโดด จาก 26,800 ล้านเหรียญในปี 1980 ไปสู่ 130,000 ล้านเหรียญในปี 2000 ก่อนที่เข้าจะวางมือเกษียณไปในปีถัดมา จนปัจจุบัน GE ยังคงเติบโตไม่หยุด มีมูลค่าคาดว่าประมาณ 400,000 เหรียญทีเดียว
ใน Winning หนังสือเล่มใหม่ของเวลช์และภรรยา พูดถึงหลัก 8 ข้อ ของการเป็นผู้นำที่ดีว่า
1. ผู้นำต้องพัฒนาทีมตลอดเวลา ทุกครั้งที่พบปะกันนั่นคือโอกาสของการประเมิน การแนะนำ และสร้างความมั่นใจให้กับทีม
2. ผู้นำไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ลูกทีมเข้าใจในวิสัยทัศน์ แต่ต้องทำให้เขารับสิ่งนั้นเข้าไปในวิถีปฏิบัติของชีวิตและการทำงานด้วย
3. ต้องแทรกซึมเข้าสู่ทุกตัวตนของลูกทีม คอยแสริมและกระตุ้นพลังงานรวมทั้งทัศนคติในเชิงบวก
4. สร้างความไว้วางใจให้เกิดแก่ลูกทีม ด้วยความจริงใจ ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือ
5. มีความกล้าหาญที่จะทำการใดๆ ที่อาจขัดแย้งกับความรู้สึกของคนหมู่มาก หรือแม้แต่ความรู้สึกส่วนตัว
6. ลงมือกระทำด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ความคิดและผลักดันลูกทีม ข้อสงสัยหรือความไม่แน่ใจใดๆ ให้ใช้การกระทำเป็นคำตอบ
7. จุดประกายให้ทีมกล้าที่จะเสี่ยง ขณะเดียวกันก็สร้างสถานการณ์ตัวอย่างเพื่อเรียนรู้
8. สังสรรค์กันบ้าง
บทความโดย : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook
ที่มา: answers.com