3 สูตรสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
1.พัฒนาซอฟต์แวร์ให้ตรงตามความต้องการลูกค้าให้มากที่สุด
2.ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ให้เสร็จโดยเร็ว ใช้เวลาให้สั้นที่สุด
3.ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาไม่ให้บานปลายหรือสูงเกินไป
พัฒนาซอฟต์แวร์ให้ตรงตามความต้องการลูกค้าให้มากที่สุด
เราต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน มีความยืดหยุ่น ต้องพัฒนาให้เหนือกว่าที่มีอยู่เดิมหรือที่มีอยู่ในท้องตลาดโดยทั่วไป คุณภาพที่สูงขึ้น ราคาที่คุ้มค่า
ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ให้เสร็จโดยเร็ว ใช้เวลาให้สั้นที่สุด
เราต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ให้เสร็จทันเวลา ต้องเร็วกว่าคู่แข่งเสมอ และอีกอย่างเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราไม่ต้องการซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย เพราะถ้าเราช้าเมื่อพัฒนาเสร็จแล้วอาจจะไม่มีลูกค้าใช้ของเราเลยก็ได้ สินค้าไอทียิ่งช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้น
การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา จะช่วยให้ธุรกิจเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในแง่ของการเป็นผู้นำตลาด สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น และทำให้ลูกค้าที่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา
การที่ธุรกิจมีความสามารถในการลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด ยังมีผลดีในเรื่องของการลดต้นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลาในการพัฒนาที่นานกว่า
ตรงกับวลีที่ว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มขึ้นแปรผันโดยตรงกับระยะเวลาที่ต้องใช้ไป
ข้อดีอีกประการหนึ่งที่แฝงมากับความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็ว ก็คือ การที่ธุรกิจสามารถมีเวลาที่จะปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเวอร์ชันต่อไป ให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้รวดเร็วขึ้น ผลักดันการเป็นผู้นำในตลาดให้คู่แข่งตามทันได้ยากขึ้น
ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาไม่ให้บานปลายหรือสูงเกินไป
ความล้มเหลวที่สำคัญที่สุดของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ได้แก่การที่ผลิตภัณฑ์ใหม่มีราคาขายที่สูงเกินไป เพราะต้นทุนในการพัฒนาสูง โปรซอฟท์จะไม่ผลักภาระต้นทุนให้กับลูกค้าโดยเด็ดขาด เราต้องหาวิธีพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุดในทางตรงกันข้ามซอฟต์แวร์ต้องมีคุณภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ในท้องตลาด เราต้องเสนอซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจ่ายให้เรา
บทความโดย : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook