ในช่วงที่ผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 เป็นช่วงเวลาที่มีอิสระ มีความสนุกสนานเหมือนวัยรุ่นทั่วๆ ไป เพราะตัวเองไม่เคยคิดเลยว่าเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้เรียนหนังสือนั้นต้องแลกกับหยาดเหงื่อและแรงกายของท่านมากขนาดไหน ผมคิดเพียงคิดว่าเรามีหน้าที่เรียนหนังสือ พ่อและแม่ต้องมีหน้าที่ส่งเสียเงินทองให้ผมเป็นค่าเล่าเรียน
ผมมาคิดได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อเรียนปีสุดท้ายเพราะต้อนนั้นต้องไปฝึกงานก่อนจบ หลังจากนั้นชีวิตผมก็ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังต้องทุ่มเท มุ่งมั่น อดทน ต่อสู้ทำงานอย่างหนักต่อไป
ถึงวันนี้อดสงสารพ่อ แม่ พี่ๆ ที่หาเงินส่งเสียให้ผมได้เรียนหนังสือเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้ผมต้องตอบแทนผู้มีพระคุณทุกคนเท่าที่ความสามารถจะทำได้ ผมอยากจะให้คำแนะนำเรื่องนี้กับพวกเราโปรซอฟท์ทุกคนว่า หน้าที่การหาเงิน หารายได้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง
เราจะได้เงินเดือน โบนัสหรือสวัสดิการต่างๆ มากน้อยเพียงใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับ CEO,MD, Manager หรือ Leader ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือพวกเราทุกคน ไม่อยากให้พวกเราเป็นเหมือนผมที่คิดว่าหน้าที่การหารายได้เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ต้องส่งเราเรียน เรามีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือเท่านั้น
อยากให้น้องๆ ทุกคนช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถของแต่ละคน เราจะไม่ผลักภาระไปให้คนอื่น เราจะต้องไม่สร้างภาระความกดดันไปให้คนอื่น พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันแบกรับความกดดันที่เกิดขึ้นในองค์กรด้วยกัน เราจะต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันตลอดไป ดั่งเจตนารมณ์ที่พวกเราทุกคนได้ให้ไว้แก่กันว่า "ร่วมแรงและแบ่งปัน"
Credit : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook