Agile ไม่ได้ใช้เฉพาะ Software Development แต่มันลามมาถึง Marketing แล้ว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้บริหารระดับสูงปรับมาใช้ ให้สอดคล้องกัน เพื่อให้การทำงานมากขึ้น
เหตุหลักมาจากการที่ R&D พัฒนา Software ไป, Marketing ก็ทำแผนไป ทำให้หลายๆอย่างอาจจจะทำให้เข้าใจแตกต่างกัน, ดังนั้น การจับ R&D+Marketing มาทำงานใน Flow หรือ Process เดียวกัน ก็จะทำให้อะไรๆ มันดีขึ้น เช่น ตัด Loss Communication, ลดต้นทุนในการทำงาน, ลดเวลาในการสื่อสาร, Product มีคุณภาพตรงตามความต้องการจริงๆ ณ ปัจจุบันแนวคิดนี้ถูกสร้างมาเป็น Model ชื่อว่า “Agile Marketing” โดยเน้นหลักๆ ดังนี้
1. Customer First : วางลูกค้าเป็นหลัก โดยเขียน User Story Card ออกมาเพื่อระบุว่า
- As a (เขาเป็นใคร)
- I want (เขาต้องการอะไร)
- So what (ได้ประโยชน์อะไร)
|
|
เขียนไว้, ร่างไว้และนำมาเสวนากันเพื่อดำเนินการต่อไป
2. Cross Functional Team : ทำงานร่วมกันทั้งหมดทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็น Project Manager, System Analyst, Developer, Marketing, Sale ทีมเดียวกัน ทำไมต้องแยก? การทำ Cross Function Team มีผลดีดังนี้
- ลดเวลาการเดิน ไป-มา เพื่อปรึกษา REQ, หรือแจ้งปัญหากัน
- ไม่ต้องเขียน Email ให้ยึดยาว, ไม่ต้องนั่งประชุมเป็นวาระให้มานั่งเกรงใจกัน (จนบางครั้งสิ่งที่สรุป ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง)
- ทุกคนรู้ปัญหาร่วมกัน Developer ทำ Error, Marketing รู้ทันทีว่า Error ส่วนไหน, ทำให้ไม่ต้องเขียน Email บอกกันให้เสียเวลาแล้วตามกันไป-มา จนเกิดต้นทุนบานเบอะ
- เสริมสร้าง Personal Communication+Team
ใช้ Couple Tools ในการแก้ปัญหา”A1: การทำ Stand-up Meeting 10 นาที เพื่อ Update ว่า ลูกค้าต้องการอะไร แล้วเราจะตอบสนองยังไง เช่น
- What you did (เมื่อวานทำอะไร, ทำอะไรไปแล้วบ้าง)
- What you"re doing (วันนี้จะทำอะไร)
- Anything that might be blocking your progress (สิ่งใดบ้างที่จะรบกวนขั้นตอนการทำงานของคุณไม่ให้ประสบความสำเร็จ)
A2: ใช้ Kanban Board ในการ Tracking งาน เช่น Trello
3. Bias Toward Action : ทำเลย ดีกว่า พูดว่าจะทำแล้วไม่ทำ, ให้รีบดำเนินการตามสิ่งที่ได้วางแผนไว้ โดยอาจจะมองเป้าหมายหลักจาก User Story ที่เขียนไว้ก็ได้
- Idea ดีแต่ไม่ทำ ไม่มีประโยชน์
- ทำตาม Idea แล้ว แต่ไม่ต่อเนื่อง ไร้คุณค่า
- ผู้มีอำนาจไม่ตัดสินใจ จบข่าว
|
|
4. Don"t Hate, Iterate : อย่าเบื่อกับสิ่งที่ทำ ย้ำเสมอว่าลูกค้าคือผู้สร้างความสำเร็จ
คำนึงถึงมุมมอง 3 ด้าน
- เริ่มสร้าง, เริ่มทำในสิ่งที่คิดไว้ให้เป็นรูปธรรมก่อน
- Masure : วัดผล, ประเมิณผลในสิ่งที่ทำไว้
- Learn : เรียนรู้ถึงข้อผิดพลาด แล้วปรับปรุงให้ดีเพื่อ Build ใหม่
|
|
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นแนวคิดจริงที่เราสามารถนำมาใช้ได้ และสิ่งนี้อาจจะช่วยปรับกระบวนการทำงานของเราให้ดีขึ้นก็ได้ครับ
บทความโดย : คุณฐิติรัตน์ กิณเรศ
ที่มา : Jonathon Colman