บทสัมภาษณ์พิเศษ คุณอัญชุลี เฮงตระกูล ที่ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนา iERP สุดยอดนวัตกรรมซอฟต์แวร์ไทยเพื่อก้าวเข้าสู่แบรนด์ระดับโลก
อยากทราบวัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบ iERP ว่าทำไมจึงต้องพัฒนาขึ้นมา ในเมื่อเรามี WINSpeed อยู่แล้ว และ iERP มีความแตกต่างจาก WINSpeed อย่างไรบ้าง? เริ่มแรกเลยที่คิดจะทำ iERP เพราะคิดว่าอีกไม่นาน WINSpeed น่าจะถึงจุดอิ่มตัว ทั้งทางด้านโครงสร้างของโปรแกรมที่ปรับเปลี่ยนต่อเติมได้ยาก และข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีอันเนื่องมากจากข้อจำกัด Tool ที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรม ที่ผ่านมาเราพบว่าเราเสียต้นทุนในการ Maintenance กลุ่มลูกค้าที่เป็นงาน Modify สูงมาก เพราะเราต้องแยก Source และแยกคนที่จะมาดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ แต่วันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกับฝ่ายขายซึ่งได้เชิญมาเป็นวิทยากรพิเศษเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้กับน้องๆ โปรแกรมเมอร์ทีม WINSpeed มีช่วงหนึ่งฝ่ายขายท่านหนึ่งเล่าว่า
“ฝ่ายขายเหมือนคนถางทาง มีหน้าที่ถือขวานออกไปถางหญ้ารกๆ โดยมีคนที่รอเดินตามมาข้างหลังอีกมากมาย ในขณะที่ลงมือถางทางคนข้างหลังก็พยายามจะดันมาข้างหน้า ฝ่ายขายก็ต้องรีบฟันหญ้าให้เร็ว ถ้าขวานที่ถืออยู่คมก็จะสามารถฟันหญ้าได้ไว ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ถ้าขวานในมือทื่อก็ต้องออกแรงมากกว่าจะถางหญ้าแต่ละกอได้ โปรแกรมก็คือขวานในมือของฝ่ายขาย จะทำยังไงให้โปรแกรม WINSpeed เป็นมากกว่าโปรแกรมบัญชีทีมีอยู่มากมายในตลาด ถ้าโปรแกรมเราทำแค่บัญชีที่โปรแกรมบัญชีไหนๆ ก็ทำได้ โดยไม่มีจุดเด่นให้ลูกค้านึกถึง กว่าจะขายได้ฝ่ายขายก็ต้องใช้เวลา และออกแรงมาก ถ้าโปรแกรมขายตัวเองได้ฝ่ายขายก็จะสบาย ถางทางได้เร็วขึ้น คนข้างหลังที่จะเดินตามก็ได้เร็วขึ้น”
ฝ่ายขายอีกท่านหนึ่งเสริมว่า
“เหมือนเราไปสั่งกระเพราไก่ ไม่ว่ากระเพราไก่ร้านไหนก็มีไก่ มีกระเพราเหมือนกัน แต่เราจะทำให้ยังไงให้ลูกค้าคิดว่าถ้าจะกินกระเพราไก่ต้องตรงมาหาเรา ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือกระเพราไก่เหมือนกับร้านอื่น”
จากจุดตรงนี้ทำให้แนวความคิดในการพัฒนา iERP เปลี่ยนไป นอกจากจะพัฒนาเพื่อทดแทน WINSpeed ตามวัฏจักรของซอฟแวร์แล้ว เรายังจะต้องทำขวานด้ามใหม่ที่คมและขวานรูปแบบใหม่ที่มีความแตกต่างจากขวานอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด เป็นโปรแกรมที่สามารถขายตัวเองได้ และทำให้ชีวิตของทุกๆ คน ทั้งลูกค้า ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ และฝ่ายโปรแกรมเมอร์เอง ง่ายขึ้น
การวางสถาปัตยกรรมซอฟแวร์ของ iERP เราออกแบบให้เป็นแบบ 3-tier ที่แยกส่วนการทำงานระหว่าง User Interface , การจัดการทางด้าน Business และการจัดการด้าน Database ออกจากกันอย่างสมบูรณ์ ซึงแตกต่างจาก WINSpeed ที่การพัฒนาแบบรวม User Interface , Business และ Database ไว้ด้วยกันทำให้การปรับเปลี่ยนทำได้ยาก อีกทั้งเพื่อให้รองรับการพัฒนาส่วน User Interface ทั้งที่เป็น Window Application , Web Application รวมถึงบนสมาร์ทโฟน ซึ่งในปัจจุบันมีอัตราผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงต้องออกแบบโปรแกรมให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย จะดีขนาดไหนถ้าฝ่ายขายสามารถเสนอราคาได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ใน office , บ้าน , ร้านกาแฟ หรือแม้แต่อยู่บนดอย จะดีแค่ขนาดไหนถ้าผู้บริหารไปต่างประเทศแต่ยังสามารถรับทราบข้อมูลสถานะบริษัทผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลตในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกราฟ แผนภูมิ หรือรูปแบบต่างๆ ทีต้องการโดยไม่ต้องมาดูรายงานเยอะๆ ให้ยุ่งยาก
iERP เหนือกว่าคู่แข่งในด้านใดบ้าง? ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โปรซอฟท์ฯ ได้พัฒนาโปรแกรมหลายๆ ตัว เพื่อให้ครอบคลุมการทำงานทุกๆ ด้านของลูกค้า ทั้งด้านบัญชี บริหารงานบุคคล บริหารงานฝ่ายขาย ไปจนถึงงานด้านเว็บไซต์ ซึงถึงตอนนี้เราคิดว่าซอฟต์แวร์ที่เรามีอยู่ทั้งหมดครอบคลุมความต้องการลูกค้าในทุกส่วนขององค์กร iERP จะเป็นโปรแกรมที่รวบรวมซอฟต์แวร์ที่บริหารงานทุกๆ ด้าน รวมเข้ากันเป็น Single Database เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งเราจะทำให้โปรแกรมเรา friendly กับโปรแกรม Third Party ต่างๆ ไม่ว่าจะใช้โปรแกรม Font Office โปรแกรมใด ก็สามารถมาใช้ iERP เป็น Back Office ได้
iERP เหมาะกับธุรกิจประเภทใดบ้าง? หลังจากที่เราวางแกนหลักซึ่งเป็นส่วนของ Framework และระบบซึ่งเป็นเหมือนระบบหลังบ้านที่เป็นแกนหลักของบัญชีเรียบร้อย สิ่งที่เราจะพัฒนาต่อไป คือ ส่วน User Interface แยกตามประเภทธุรกิจ ซึ่งคาดว่าถ้าจะใช้ระยะเวลาไม่นานเนื่องจากรูปแบบสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่เป็นแบบ 3-tier ทำให้เราปรับเปลี่ยนส่วนของ User Interface ได้อย่างอิสระ ดังนั้นเราจะทำ iERP ให้รองรับทุกประเภทธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้ามากพอคุ้มค่ากับการพัฒนา
iERP สามารถช่วยสนับสนุน Value Chain ให้กับลูกค้าในเรื่องใดบ้างและสนับสนุนอย่างไรบ้าง? ตามแนวความคิดของผู้บริหารสูงสุดของโปรซอฟท์ฯ คือ เราต้องทำให้ชีวิตการทำงานของลูกค้าง่ายขึ้น ตัวโปรแกรม iERP เองก็ยึดถือหลักการออกแบบด้วยแนวความคิดนี้ โปรแกรมของเราจะต้องสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางด้านธุรกิจให้กับลูกค้า เราต้องทำให้ลูกค้าที่ใช้งานโปรแกรมเรามีต้นทุนการทำงานที่ต่ำ โดยโปรแกรมจะสนับสนุนการทำงานของลูกค้าให้ไม่ต้องทำงานหลายขั้นตอน สามารถใช้คนเพียงไม่กี่คนทำงาน ไม่ต้องจ้างแรงงานมากๆ อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนข้อมูล ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์การวางแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างความโดดเด่นของสินค้า หรือวางแผนการขายสินค้าตามความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที
แนวโน้มของ iERP ในอนาคต จะไปในทิศทางใด และมีการพัฒนาต่อยอดไปในด้านใดบ้าง? นอกจากแยกการพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้ในแต่ละประเภทธุรกิจแล้ว เรายังมีแผนการที่จะส่งซอฟต์แวร์เราออกไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ดังนั้น iERP จะต้องรองรับได้หลายภาษา โดยที่ไม่ต้องมา Customize เพิ่ม แต่เราจะยังคงรับงาน Project สำหรับลูกค้าที่ต้องการ Customize โปรแกรมที่เป็นการทำงานเฉพาะของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าหลายๆ รายเลือกเราด้วยเหตุผลนี้
ลูกค้าเก่าที่เคยใช้งาน WINSpeed อยู่แล้ว จะสามารถนำข้อมูลเดิมมาใช้งานต่อใน iERP ได้หรือไม่ และมีกระบวนการอย่างไร? ลูกค้าเก่าที่ใช้งาน WINSpeed ถือเป็นลูกค้าที่มีพระคุณของเรา ลูกค้าบางรายใช้งานโปรแกรมเรามาเป็น 10 ปี ตั้งแต่ WINSpeed 2.0 จนถึง WINSpeed 9.0 ลูกค้ากลุ่มนี้จึงเป็นลูกค้าคนสำคัญของเรา ดังนั้นเมื่อออก iERP เราจึงจะเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มนี้อัพเกรดโดยเราขอคิดค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าดำเนินการเท่านั้น การนำข้อมูลจาก WINSpeed เข้า iERP เราจะเตรียม Tool ในการนำเข้าข้อมูลไว้ให้ ซึ่ง Tool นี้นอกจากจะใช้ในการนำข้อมูลจาก WINSpeed เข้า iERP แล้ว เรายังต่อยอดไปยังการนำเข้าข้อมูลจาก Third Party ต่างๆ ที่จะมา Plug in กับเรา