"พ่อไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรให้ลูกเลย นอกจากให้การศึกษา ถ้าอยากได้ดีให้ตั้งใจเรียน ไม่อยากให้ลำบากเหมือนพ่อ"
คำสอนดังกล่าวยังคงอยู่ในความทรงจำของผมจนถึงทุกวันนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งจนเติบโต
พ่อแม่ให้คำแนะนำ ให้คำสอนไม่มากนัก ส่วนใหญ่สอนให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต อย่าติดเหล้าเมายา พ่อแม่ไม่เคยมาจ้ำจี้จ้ำไชว่าต้องทำอย่างโน้นต้องทำอย่างนี้
สิ่งที่ทำให้ผมเติบโตมาถึงทุกวันนี้ก็เพราะผมมีแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ว่าสักวันเราต้องไม่ลำบากยากจน เราต้องทำให้พ่อแม่มีความสุข เป็นที่พึ่งของครอบครัวให้ได้ ทำให้ผมทำงานอย่างขยันขันแข็งไม่เหน็ดเหนื่อยต่อการทำงาน ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด
ตลอดเวลาสองปีที่เชียงใหม่ ผมได้ใช้เวลาฟูมฟัก ถ่ายทอดประสบการณ์ สอนแนวทางในการทำงาน แนวทางการบริหารงานแทบทุกวันไม่ได้ขาด ก็เพราะหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งพนักงานที่นี่จะเติบใหญ่รับผิดชอบงานที่ท้าทายต่อไป
ถึงเวลาแล้วที่ผมขอนำคำที่พ่อสอนมาบอกกับน้องๆทุกคนแม้ว่าจะไม่เหมือนกันทุกคำพูดว่า "ต่อไปนี้พวกเราทุกคนต้องทำงานอย่างขยันขันแข็ง ทำงานอย่างเต็มที่อย่างสุดความสามารถ ให้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเห็นแก่ความสบาย อย่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน พวกเราต้องรักษาธุรกิจที่บรรพบุรุษ(รุ่นพี่ๆ)เขาสร้างกันขึ้นมา พวกเราต้องช่วยกันสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยิ่งใหญ่และยั่งยืนสืบไปเพื่อคนรุ่นหลัง"
วันเวลานับจากนี้ไปก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องสร้างสรรค์ผลงานเพื่ออนาคตของพวกเราเอง พี่ๆก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ น้องๆทุกคนก็ต้องเป็นความหวังให้กับองค์กรต่อไป ส่วนผมก็คงไม่ต่างกับพ่อแม่ที่รอดูความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของลูกๆทุกคน
บทความโดย : คุณวิโรจน์ เย็นสวัสดิ์ | Facebook